สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 หน่วยงานทางการศึกษามีสังกัดโดยประมาณ
210 แห่ง และเป็นโรงเรียนขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ มีบุคลากร จำนวน 2,100 คน โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียน ใช้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
โรงเรียนได้รับจัดสรรคอมพิวเตอร์
และขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตให้กับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ สามารถนำเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ทั้งการบริหารและการจัดการเรียนการสอน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สามารถกำหนดบทบาททั้งเป็นผู้สอนและผู้ช่วยสอน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้นักเรียนเรียนรู้เทคโนโลยีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่
1 กำหนดให้ครูต้องมีสมรรถนะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนกาสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็น
กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับตาม
หลักสูตรและส่งเสริม ความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากการศึกษาสภาพปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการและเพื่อการเรียนการสอน
พบว่า โรงเรียนได้รับการจัดสรรอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่พร้อมสำหรับการทำงานแล้วก็ตามแต่บุคลากรยังสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เนื่องจากครูมีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนยังมีน้อย
เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
นักเรียนกระหายที่จะเรียนรู้
การทำงานต้องอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ครูจำเป็นที่จะต้องการพัฒนาตนเองให้มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอยู่อย่างสม่ำเสมอ
การฝึกอบรมพบปะกับเพื่อนครู การใช้งานเครือข่ายสังคมแห่งการเรียนรู้
กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
ได้ริเริ่มโครงการพัฒนาบุคลากรด้าน ICT จัดกิจกรรมช่วงปิดภาคเรียนทุกภาคเรียน
ปีละ 2 ครั้ง
ภายใต้ชื่อกิจกรรม
ปิดเทอมเติมความรู้ โดยมีหลักการในการพัฒนาครูในช่วงเวลาปิดภาคเรียน
ครูไม่ทิ้งห้องเรียน มีการลงทะเบียนสบทบอย่างประหยัด หลักสูตรหลากหลายตามความสนใจ
การพัฒนาครูประจำการที่เป็นมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน การฝึกอบรมถือว่าเป็นวิธีการดั้งเดิมและเป็นที่นิยมทำกันในปัจจุบัน ทั้งการประชุมสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ
ในแต่ละปีงบประมาณ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็พยายามเสนอโครงการเพื่อของบประมาณจัดอบรมครูท่ามกลางคำถามมากมาย
และในช่วงก่อนสิ้นปีงบประมาณ
ก่อนสิ้นเดือน ตุลาคม ของทุกปีโครงการต่างๆ ก็จะหลังไหลออกมา
ครูก็จะได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ มากมายจนต้องละทิ้งชั้นเรียน
เกิดการส่งผู้เข้ารับการอบรมแทนกัน
ผู้เข้ารับการอบรมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
ท่ามกลางคำถามมากมาย เช่น
-
ครูที่เข้ารับการอบรมมีความสนใจจริงๆ หรือเปล่า
-
เนื้อหาในการอบรมอยู่ในความสนใจของผู้เข้ารับการอบรมหรือเปล่า
-
ครูต้องละทิ้งชิ้นเรียนทำให้ผลการเรียนตกต่ำ
-
ครูละทิ้งห้องเรียน โรงเรียน
ปล่อยให้เพื่อนครูรับภาระแทน
-
งบประมาณที่ใช้ไปคลุ้มค่าหรือไม่
-
ถ้าไม่มีงบประมาณจะดำเนินการได้หรือไม่
-
คุ้มหรือไม่กับการละทิ้งห้องเรียน
-
ความรู้ที่ได้อบรม มานำมาใช้เพื่อการศึกษา
-
ผู้เข้ารับการอบรม มีสิทธิเลือกหรือไม่
-
มีวิธีการฝึกอบรม แบบไหนดี
ประหยัด
ผู้เขียนมีประสบการณ์เป็นครูผู้สอนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา มา 9 ปี ได้คิดรูปแบบการพัฒนาบุคลากร ด้าน ICT โดยนำเอาคำถามในใจด้านบนมาเป็นตัวตั้ง
ระหว่างที่นักเรียนปิดเรียนครูมาพัฒนาความรู้ด้าน ICT ตามความสนใจดีมั้ย ยึดหลัก 3 ม
(1) ไม่แย่งครูออกจากนักเรียน (2)
ไม่บังคับครูเข้าอบรม (3) ไม่ต้องรองบประมาณ
เทอดชัย บัวผาย (ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น